ค่ายดิน หิน แร่ ป่าต้นน้ำ ณ ป่าต้นน้ำเขากระโจม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 
โรงเรียนทอสี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
วันพุธที่ 8-วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดูคลิปวิดีโอได้ทีี่นี่คะ

               มาปีนี้ นับเป็นรุ่นที่ 3 แล้วค่ะ ที่เด็กๆ โรงเรียนทอสี ชั้นป.4 ได้มาจัดกิจกรรมค่ายดิน หิน แร่ ป่าต้นน้ำ ณ ป่าต้นน้ำเขากระโจม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 
โดยมีพี่ๆ ทีมกิจกรรมของมูลนิธิฯ จัดกระบวนการเรียนรู้แบบสัมผัสจริง ได้ประสบการณ์ตรง และที่สำคัญ สนุก!  (ไม่รู้น้องๆ สนุกด้วยหรือเปล่า แต่พี่ๆ นี่สนุกสุดๆ ไปเลย)  สุดท้ายเด็กๆ เกิดผลงานการเรียนรู้จากจินตนาการของตนเองกลับบ้านกันด้วย

เรื่องดิน หิน แร่ ป่าต้นน้ำ เป็นสาระในหมวดวิชาวิทยาศาสตร์ ของเด็กๆ ระดับชั้น ป.4 ที่เรียนรู้ในภาคทฤษฎีมาอยู่แล้วในชั้นเรียน และ เมื่อมาลงพื้นที่ธรรมชาติจริงๆ วิชาความรู้ต่างๆ ของเด็กๆ จึงหลั่งไหล  (เพราะเวลาพี่ๆ ถาม น้องๆ ยกมือกันขอตอบเต็มไปหมด)และเด็กๆ ตื่นตัวพร้อมต่อการเรียนรู้เมื่อได้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ แบบไม่ปล่อยให้ความเหน็ดเหนื่อยทำลายโอกาสกันเลย  เด็กๆ ลงมือช่วยกันหาแร่เหล็กที่อยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำเขากระโจม จาก "แม่เหล็ก" เครื่องมือที่พี่ๆ เตรียมไว้ให้ และทดลองร่อนแร่ดีบุกแบบชาวเหมืองดั้งเดิมของพื้นที่ละแวกสวนผึ้งนี้ ไปจนถึงการเก็บหา "เขี้ยวหนุมาน" ซึ่งเป็นประเภทหินควอตซ์มีลักษณะใสขาวและมีผลึกที่สวยงาม เด็กๆ ขุดหากันอย่างไม่กลัวแดดหรือความร้อน  ไปจนถึงการได้สัมผัสความชื้นเย็นของดิน (ที่เด็กๆ เดินเข้าไปในเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าต้นน้ำด้วยเท้าเปล่า แม้ว่าหลายคนจะมีความหวาดกลัวเจ้าทากน้อยที่อาจจะมาดูดเลือดได้) ได้เห็นต้นไม้ทั้งที่เป็นต้นเล็กๆ ไปจนถึงต้นใหญ่ๆ ในผืนป่าดิบแล้งและเรื่องราวของหมีจากร่องรอยเล็บตามต้นไม้ใหญ่ ว่ามันสามารถปีนขึ้นต้นไม้สูงๆ เพื่อไปเอาน้ำหวานของผึ้งมากินได้อย่างไร  แต่ที่เป็นความสนุกสนานกันที่สุดน่าจะเป็นตอนที่เด็กๆ ได้ลงไปสัมผัสกับน้ำเย็นๆ ในห้วยใหญ่ ที่ไหลรวมลงมาจากตาน้ำบนภูเขา เพราะเวลาที่คุณครูและพี่ๆ บอกว่าได้เวลากลับกันแล้ว เด็กๆ แม้จะขึ้นจากน้ำโดยดี แต่สายตาละห้อยที่สัมผัสได้ก็บ่งบอกถึงความอาลัยอาวรณ์สายน้ำอยู่ให้เห็น

               จากที่ได้เห็นเด็กๆ กับความตื่นตัวต่อการเรียนรู้ในค่ายครั้งนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำความจริงที่ว่าความสนุกสนานของการเรียนรู้จากการสัมผัสจริงในพื้นที่ธรรมชาติ เป็นส่วนเสริมการเรียนรู้หลักของเด็กๆ ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ  เพราะเห็นได้จากความมั่นใจและความภูมิใจของเด็กๆ ที่เกิดขึ้นในการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ภายในค่ายและเรื่องราวที่บอกเล่าผ่านในสมุดบันทึกของเด็กๆ เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความรู้ที่พวกเขาได้รับอย่างแท้จริงที่ไม่ได้มาจากการนั่งคิดเอา หรือการบอกต่อให้ฟังเท่านั้น