
Hatch-U คือ...
โครงการที่ทำให้เกิดการเข้าถึงสภาพความงาม ความจริง และปัญหาสิ่งแวดล้อม
ที่มาที่ไป
10 ปีที่ผ่านมากับการทำงานเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ โดยมุ่งไปที่การปลูกจิตสำนึกให้กับเด็กและเยาวชน ได้พบว่า เด็กและเยาวชนทราบดีว่าธรรมชาติกำลังถูกทำลายและก็ทราบดีว่า เป็นปัญหาใหญ่ แต่เขายังไม่เอามาเป็นปัญหาของตนเอง
ในขณะที่เขาไม่เห็นว่าเป็นปัญหาของตน เขาก็ยินดีกับการใช้เทคโนโลยีปรับสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับความสะดวกสบายของตนเองมากขึ้นๆ แทนที่จะปรับตัวเองให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่มีธรรมชาติเป็นตัวหลัก และภายใต้อิทธิพลของกระแสการบริโภคแบบวัตถุนิยมที่เกินความพอเหมาะพอดี ธรรมชาติก็เลยถูกนำมาหาประโยชน์อย่างทิ้งๆ ขว้างๆ
หากเด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ยังคงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกระแสนิยมดังกล่าว โดยไม่มีโอกาสทำความรู้จักกับผลกระทบที่จะเกิดตามมา ก็ย่อมเป็นการยากที่ชีวิตของเขาจะพบกับความสุข และยังจะทำให้ชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้ต้องเดือดร้อนไปด้วย
การที่เยาวชนยังไม่เห็นว่า ปัญหาธรรมชาติที่กำลังถูกทำลายเป็นปัญหาของเขาด้วย อาจเป็นเพราะว่าเขาเชื่อมโยงระหว่างตัวเขากับธรรมชาติที่กำลังถูกทำลายไม่ได้ แต่ถ้าสร้างโอกาสให้เขาเข้าถึงความรู้ที่ลึกมากขึ้นและกว้างมากขึ้น ก็จะทำให้เขาประจักษ์ด้วยตัวเองว่า เขาก็เป็นผู้ที่มีส่วนในการที่ทำให้ธรรมชาติถูกทำลายเช่นกัน
ในขณะที่เราพบว่า เด็กและเยาวชนยังไม่เอาปัญหาสิ่งแวดล้อมมาเป็นปัญหาของตนด้วยนี้ เราก็พบว่าการรับฟังเขา การนำเขาไปรับรู้สภาพธรรมชาติที่เป็นอยู่ การให้เวลาต่อเนื่องในการทำกิจกรรมกลุ่ม การสร้างเวทีเพื่อการแลกเปลี่ยนความคิด และการสร้างความเป็นเพื่อนระหว่างเด็กและเยาวชน รวมถึงธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม จะทำให้เขาเปลี่ยนทัศนะของตนเอง และเกิดความเป็นมิตรต่อธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งขณะเดียวกัน ก็เห็นการนำปัญหาสิ่งแวดล้อมมาเป็นปัญหาของตนมากขึ้น
สำหรับเยาวชนที่กำลังอยู่ในระดับอุดมศึกษา เป็นเยาวชนที่กำลังจะก้าวออกไปสู่โลกที่จะต้องรับผิดชอบตนเองและสังคม รวมถึงโลกใบนี้ ดังนั้นเขาจะต้องมั่นใจตนเองว่า เมื่อถึงเวลานั้น เขาต้องไม่ใช่ผู้ที่ทำลายโลกใบนี้


ปัจจุบันเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า เราอยู่ในยุคที่กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องถามว่า
จริงหรือไม่และใครเป็นผู้ทำ สิ่งที่จะต้องทำกันต่อไป คือ
เราจะอยู่รอด อยู่ร่วม อยู่รวม กับทุกชีวิตบนโลกใบนี้ได้อย่างไร ภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลง
โลกแบบที่เป็นอยู่

1. เพื่อให้เยาวชนได้คิดเกี่ยวกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม
2. เพื่อให้เยาวชนเป็นผู้ตั้งประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม

เยาวชนระดับอุดมศึกษา จำนวน 25 คน และอยู่ในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ
การเตรียมตัวเยาวชนให้พร้อม...
เติมเต็มศักยภาพและมุมมองด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์ผลงานนำเสนอความคิดต่อสาธารณชน
(ท่องเที่ยว + เสวนา)
แลกเปลี่ยนความคิดกับกูรูในมิติต่างๆ ของโลก อาทิ ปราบดา หยุ่น (เรื่องสังคมและศิลปะ), นภดล ศิวะบุตร,
คุณพฤฒิ เกิดชูชื่น (ธุรกิจยุคใหม่), อ.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ (นิเวศน์ประวัติศาสตร์), พ่อคำเดื่อง ภาษี (จากวิธีสู่วิถี),
นพ.ประสาน ต่างใจ (ธรรมชาติและจิต), อ.สุภาพ ดีรัตนา (Tourism), พระชยสาโร (ตัณหาในธุรกิจ),
อ.ชะลูด นิ่มเสมอ (ศิลปะและสุนทรียภาพ), และอีกหลายท่านในหลากหลายประเด็น
เปิดรับสิ่งต่างๆ รอบด้านด้วยใจเป็นกลางและเป็นสุข
เรียนรู้การสร้างเครื่องมือเพื่อการสื่อสารแสดงความคิดเห็นของตนเอง กับ master
ทั้ง 4 ด้าน อาทิ จิระ มะลิกุล (Workshop ภาพยนตร์), ชาตรี สลีวงศ์ (Workshop ภาพนิ่ง),
วรรธนา วีรยะวรรธนะ (Workshop ดนตรี), ชาติ กอบจิตติ (Workshop วรรณกรรม),
ออกเดินทาง ไปรับรู้ เรียนรู้ สัมผัสจริงตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น
รับประสบการณ์ใหม่ของการเรียนรู้โลกนอกห้องเรียน ...เพราะทุกอย่างคือการเรียนรู้

1. ประชาสัมพันธ์และรับสมัครเด็กเข้าร่วมโครงการ (เป้าหมาย 10 มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ)
2. ปฐมนิเทศ
3. ค่ายเรียนรู้ธรรมชาติ + เดินทางท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ
4. เสวนา
5. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop)
6. การสร้างผลงานของเยาวชน
7. ค่ายสรุปและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
8. นำเสนอผลงานต่อสาธารณชน
9. งานวิจัยกระบวนการเรียนรู้แบบ Hatch-U
10. ถอดบทเรียนและประเมินโครงการ
11. ติดตามความต่อเนื่องหลังเสร็จสิ้นโครงการ

1. ผลงานของเยาวชนที่ใช้สื่อสารความคิดต่อสาธารณชน 20 ชิ้น
2. ชุดความรู้ที่ได้จากการเสวนา
3. รายงานการวิจัยกระบวนการ Hatch-U (การเรียนรู้นอกระบบมีส่วนกระตุ้นส่งเสริมการเรียนรู้ในระบบ)
4. เพื่อนต่างสถาบัน
1. เจตคติที่ดีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2. เกิดสำนึกของการเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ
3. รู้จักเลือกสิ่งที่จะเรียนรู้ และเลือกทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์
(เด็กเห็นคุณค่าของสิ่งที่เขาจะได้จากโครงการ)
1. มีผลงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์ / หนังสือ / เพลง / ภาพถ่าย
2. มีเวทีให้แสดงความสามารถของตนเอง
3. ความรู้ใหม่จากประเด็นเสนวา
4. เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง
5. เกิดแรงบันดาลใจ
6. ได้โอกาสที่ตนเองจะได้ทำกิจกรรมนี้
7. ได้รู้จักสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติมากขึ้น
8. เพื่อนต่างสถาบัน
9. ได้รู้จักบุคคลที่หลากหลายมากขึ้น (Master , บุคคลที่ชื่นชม)
10. เกิดการเปลี่ยนแปลงตนเอง
11. ได้แสดงผลงานสู่สาธารณะ
(ที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ)
1. เนื้อหา สาระของโครงการ
2. การได้เห็นการปรับตัวของลูก
3. โอกาสที่ได้สนับสนุนลูกทำกิจกรรมเชิงบวก
4. ได้เห็นผลงานของลูกปรากฏสู่สาธารณะ
5. ได้เห็นว่าลูกได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ดีๆ

1. สังคมจะได้คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (คนรุ่นใหม่ : คนที่จะก้าวเข้าสู่วัยทำงานที่มีคุณภาพ และมีแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง
2. สังคมได้รับรู้มุมมองใหม่ว่า เทคโนโลยีช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ (เนื่องจากคำกล่าวที่ว่า เมื่อเทคโนโลยีพัฒนา สิ่งแวดล้อมล้อมจะถูกทำลาย)
3. สังคมได้รับฟังเสียงสะท้านจากเยาวชนในเรื่องสิ่งแวดล้อม
|